THAI FOREST ECOLOGICAL RESEARCH JOURNAL
สังคมพืชป่าชายหาดบริเวณอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้สังคมพืชป่าชายหาดได้รับผลกระทบจากกิจกรรมการท่องเที่ยวสูง ทำให้เกิดนโยบายการปิดอ่าวในเดือนพฤษภาคม 2561 เพื่อฟื้นฟูสภาพทรัพยากรธรรมชาติ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโครงสร้างและองค์ประกอบพรรณไม้และการสืบต่อพันธุ์ของป่าชายหาดหลังการปิดอ่าวมาหยา โดยวางแปลงถาวรขนาด 10 เมตร ? 100 เมตรในป่าธรรมชาติ และแปลงชั่วคราว ขนาด 10 เมตร ? 10 เมตร จำนวน 8 แปลงตัวอย่าง ให้กระจายครอบคลุมพื้นที่แนวขอบเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพื่อสำรวจองค์ประกอบพันธุ์ไม้ในระดับกล้าไม้ ไม้รุ่น และไม้ใหญ่ วัดขนาด ระบุชนิดและบันทึกพิกัดต้นไม้ในแปลงตัวอย่าง เริ่มทำการศึกษาระหว่างเดือนกรกฏาคม ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 ผลการศึกษาพบว่าองค์ประกอบพรรณไม้ในระดับไม้ใหญ่ พบชนิดไม้จำนวน 21 ชนิด 21 สกุล และ 16 วงศ์ มีความหนาแน่นและพื้นที่หน้าตัดเฉลี่ยเฉลี่ยเท่ากับ 1,261 ต้นต่อเฮกแตร์ และ 37.55 ตารางเมตรต่อเฮกแตร์ ตามลำดับ มีค่าดัชนีความหลากหลายของ Shannon-Wiener ในระดับปานกลาง (H/= 2.27) ขณะที่ระดับกล้าไม้ บริเวณป่าชายหาดอ่าวมาหยาในภาพรวม พบว่ามีความหลากหลายค่อนข้างต่ำ (H/= 1.75) แสดงให้เห็นว่าการสืบต่อพันธุ์ในระดับกล้าไม้เกิดขึ้นได้ไม่ดีนัก พบชนิดกล้าไม้เพียง 11 ชนิด ในด้านความคล้ายคลึงระหว่างสังคมพืชป่าชายหาดปลอดการรบกวน (แปลงถาวร) และบริเวณแนวเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พบว่าระดับความคล้ายคลึงมากที่สุดอยู่ในระดับไม้ใหญ่ (ร้อยละ 53.16) รองลงมาคือ ระดับกล้าไม้ และไม้รุ่น (ร้อยละ 27.65 และ 5.94 ตามลำดับ) แสดงให้เห็นผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมการท่องเที่ยวต่อการตั้งตัวของกล้าไม้มากพอสมคควร ดังนั้นการปิดอ่าวมีส่วนช่วยทำให้การตั้งตัวของกล้าไม้ป่าชายหาดบริเวณแนวเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีความคล้ายคลึงกับป่าธรรมชาติสูงมากขึ้น และอาจเติบโตเข้าสู่ไม้รุ่นในอนาคต
คำสำคัญ: